คำสอนของพระพุทธเจ้ามีกี่ส่วนในช่วงเวลาที่พระองค์ยังมีชีวิตอยู่?
คำสอนของพระพุทธเจ้าที่มีอยู่ในช่วงเวลาที่พระองค์ยังมีชีวิตอยู่ แบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก คือ ธรรมะ (Dhamma) และ วินัย (Vinaya) ซึ่งเป็นหลักการที่พระองค์ได้สอนให้กับสาวกและผู้ติดตาม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่พระองค์จะเสด็จเข้าสู่การนิพพาน พระองค์ได้กล่าวว่า "ธรรมะและวินัยที่ข้าพเจ้าได้สอนหรือบัญญัติไว้เพื่อประโยชน์ของพวกท่าน จะเป็นอาจารย์ของพวกท่านหลังจากที่ข้าพเจ้าได้จากไป" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของธรรมะและวินัยในชีวิตของผู้ที่ปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ หลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จนิพพานไปแล้ว คำสอนเหล่านี้ยังคงถูกใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของชาวพุทธ แต่ในช่วงแรก คำสอนเหล่านี้ยังไม่ได้ถูกบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ทำให้มีความเสี่ยงที่จะสูญหายไป ดังนั้นจึงมีการจัดประชุมสังฆกรรมครั้งแรกขึ้น เพื่อสรุปและบันทึกคำสอนเหล่านี้ให้เป็นระบบ โดยการประชุมครั้งแรกนี้มีขึ้นสามเดือนหลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จนิพพาน มีพระอรหันต์เข้าร่วมจำนวน 500 รูป และมีพระมหากัสสปะเป็นประธานในการประชุม ในระยะเวลาหลายปีหลังจากนั้น มีการจัดประชุมสังฆกรรมเพิ่มเติม โดยเฉพาะการประชุมครั้งที่สาม ซึ่งเกิดขึ้นในปีที่ 236 หลังพุทธศักราช ที่เมืองปาตลีบุตรในอินเดีย ในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช ในการประชุมครั้งนี้ คำสอนของพระพุทธเจ้าได้ถูกจัดแบ่งออกเป็นสามส่วนหลัก หรือที่เรียกว่า "ตรีปิฎก" ซึ่งประกอบด้วย วินัยปิฎก (Vinayapitaka) สุตตันตปิฎก (Suttantapitaka) และอภิธรรมปิฎก (Abhidhammapitaka) โดยที่วินัยปิฎกจะกล่าวถึงกฎระเบียบและข้อบังคับในการปฏิบัติ ส่วนสุตตันตปิฎกจะเป็นการบรรยายธรรมที่พระพุทธเจ้าได้สอนในโอกาสต่าง ๆ และอภิธรรมปิฎกจะรวมถึงหัวข้อที่เกี่ยวกับจิตใจและปัจจัยทางจิตที่พระองค์ได้สอนในลักษณะที่ไม่ระบุถึงสถานที่หรือบุคคลที่ได้รับการสอนโดยตรง ดังนั้น คำสอนของพระพุทธเจ้าจึงมีความหลากหลายและลึกซึ้ง ซึ่งยังคงมีความสำคัญต่อการปฏิบัติธรรมของชาวพุทธในปัจจุบัน